ฟุคุดะฟาร์ม หมู่บ้านสเปนยุโนโกะ (Fukuda-farm Yunoko Spain Village)
“ฟุคุดะฟาร์ม หมู่บ้านสเปนยุโนโกะ (Fukuda-farm Yuno...
“คุมาโมโตะ” เป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของภูมิภาคคิวชู โดยมีฉายาอยู่ 2 ชื่อซึ่งฟังเผิน ๆ แล้วดูขัดแย้งกันสุด ๆ อย่าง “ดินแดนแห่งไฟ” และ “ดินแดนแห่งน้ำ”
ภูเขาไฟอาโซะ (Mount Aso) เป็นภูเขาไฟที่ยังไม่ดับแลทำให้เกิดแอ่งภูเขาไฟรูปกระจาดชั้นแนวหน้าของโลกจากการปะทุของมัน ภูเขาไฟที่ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของคุมาโมโตะแห่งนี้สรรสร้างให้เกิดทัศนียภาพอันยิ่งใหญ่ตระการตาสุด ๆ ด้วยเหตุนี้ ที่นี่จึงถูกเรียกว่าเป็น “ดินแดนแห่งไฟ”
แต่ในขณะเดียวกัน บริเวณโดยรอบภูเขาไฟอาโซะก็มีฝนตกบ่อย แถมคุมาโมโตะยังอุดมสมบูรณ์ไปด้วยน้ำบาดาลและขึ้นชื่อเรื่องน้ำรสชาติอร่อยอีกต่างหาก ผู้คนจึงเรียกกันอีกชื่อหนึ่งว่า “ ดินแดนแห่งน้ำ” นั่นเอง
นอกจากนี้ พื้นที่แต่ละแห่งภายในจังหวัดก็ยังปกคลุมไปด้วยป่าไม้อันงดงามอีกด้วย เมืองศูนย์กลางอย่างเมืองคุมาโมโตะจึงถูกเรียกกันว่าเป็น “เมืองหลวงแห่งป่าไม้” อีกด้วย
คุมาโมโตะซึ่งอุดมสมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาติแห่งนี้จึงภูมิใจในฐานะที่เป็นแหล่งส่งออกแตงโมเป็นอันดับ 1 ของญี่ปุ่น แถมยังขึ้นชื่อเรื่องมะเขือเทศและผลไม้อย่างส้มและเมล่อนด้วย นอกจากนี้ก็ยังโดดเด่นเรื่องข้าว พืชผัก และอุตสาหกรรมปศุสัตว์ด้วย เรียกได้ว่ามีอาหารแสนอร่อยเต็มไปหมด
นอกจากที่นี่จะเป็นที่ตั้งของร่องรอยทางประวัติศาสตร์มากมาย เช่น ปราสาทคุมาโมโตะ 1 ใน 3 ปราสาทขึ้นชื่อของญี่ปุ่นแล้ว ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาก็ยังมีการสรรสร้างวัฒนธรรมสุดแสนจะมีเอกลักษณ์อย่าง คุมะมง มาสคอตหมีขึ้นชื่อของญี่ปุ่นขึ้นมาอีกต่างหาก
สนามบินคุมาโมโตะ (Kumamoto Airport) ประตูสู่จังหวัดคุมาโมโตะมีเที่ยวบินตรงมาจากทั้งเกาหลีและไต้หวัน
นอกจากจะมีสายการบินต้นทุนต่ำบินให้บริการมาจากโตเกียวแล้ว เรายังสามารถนั่งรถบัสด่วนจากเมืองที่ใหญ่ที่สุดในคิวชูอย่างฟุกุโอกะมาถึงได้ในราคา 2,060 เยน / เที่ยวอีกด้วย
เมื่อเดือนเมษายน 2016 ที่ผ่านมา คุมาโมโตะเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวความแรงกว่า 7 ริกเตอร์จนทำให้จังหวัดได้รับความเสียหายอย่างหนักก็จริง แต่ในขณะนี้ ทั่วทุกแห่งภายในจังหวัดกำลังอยู่ในช่วงเดินหน้าบูรณะฟื้นฟูอย่างเต็มกำลังภายใต้คติที่ว่า “กามาดาสึไบ (เป็นภาษาท้องถิ่นคุมาโมโตะหมายถึงต่อสู้ / พยายามไปด้วยกัน)”
ถ้าเกิดใครมีโอกาสได้มาเที่ยวคุมาโมโตะจะสัมผัสได้ถึงความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะลุกขึ้นสู้จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวของผู้คนทั่วทั้งจังหวัดอย่างแน่นอนค่ะ
ในจังหวัดคุมาโมโตะเต็มไปด้วยไฮไลท์มากมายตั้งแต่มรดกทางวัฒนธรรมไปจนถึงทัศนียภาพอันงดงาม ในครั้งนี้เราจะมาแนะนำแหล่งท่องเที่ยวสุดเจ๋งใจกลางเมืองคุมาโมโตะกันค่ะ
“ปราสาทคุมาโมโตะ (Kumamoto Castle)” แห่งนี้เป็นปราสาทที่มีกำแพงหินอันยิ่งใหญ่กว่า 20 เมตรซึ่งผ่านการก่อสร้างเพิ่มเติมโดย คิโยมาสะ คาโต้ ซามูไรผู้ปกครองคุมาโมโตะเมื่อ 500 ปีก่อน โดยเป็น 1 ใน 3 ปราสาทขึ้นชื่อของญี่ปุ่น
ภายในปราสาทเต็มไปด้วยไฮไลท์มากมาย เช่น ห้องโชกุนโนะมะ (ห้องของเจาจิน) สุดโอ่อ่าอลังการที่ปิดแผ่นทองคำบนผนังและประตูบานเลื่อนกรอบไม้เล่าเรื่องราวของ “หวังเจาจิน” สาวงามในหน้าประวัติศาสตร์โศกนาฏกรรมของประเทศจีน เป็นต้น
น่าเสียดายที่ปราสาทแห่งนี้ได้รับความเสียหายอย่างหนักจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในคุมาโมโตะจนทำให้หลายพื้นที่ปิดให้บริการก็จริง แต่ในปัจจุบัน ที่นี่กำลังเดินหน้าบูรณะฟื้นฟูอย่างเต็มที่จากเงินบริจาคของชาวเมืองมากมาย จึงเรียกได้ว่า ที่นี่เป็น สัญลักษณ์แห่งคุมาโมโตะ แหล่งรวมใจของชาวเมืองคุมาโมโตะอย่างแท้จริง
※ ในปัจจุบัน เดือนกันยายน ปี 2017 ห้องประทับของโชกุนปิดให้เข้าชมเนื่องจากอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง
ที่อยู่ : 1-1 Honmaru, Chuo Ward, Kumamoto, Kumamoto Prefecture
เว็บไซต์หลัก : https://kumamoto-guide.jp/kumamoto-castle/en/admission/ (เว็บไซต์ภาษาอังกฤษ)
“ซากุระโนะบาบะ โจไซเอ็น (Sakuranobaba Johsaien)” แห่งนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ตั้งอยู่ติดกับปราสาทคุมาโมโตะเลย ถนนร้านค้าซากุระโนะโคจิ ด้านในเรียกได้ว่าเป็นสถานที่อัดแน่นไปด้วยเสน่ห์แห่งคุมาโมโตะเลยก็ว่าได้ โดยเป็นแหล่งรวมร้านค้าจำหน่าย อาหารและของฝาก จากคุมาโมโตะมากมายกว่า 23 ร้าน
นอกจากนี้ก็ยังเป็นที่ตั้งของ “พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมวาคุวาคุสะ (Wakuwakuza History and Cultural Experience)” สถานที่เรียนรู้ประวัติศาสตร์ของคุมาโมผ่านวีดิโอและ “ศูนย์ประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยว” แหล่งรวมข้อมูลการท่องเที่ยวทั่วจังหวัดคุมาโมโตะด้วยนะเออ บอกเลยว่ามีทั้งแผ่นพับและแผนที่ภาษาต่างประเทศ รวมถึงตู้ล็อคเกอร์ฟรีให้บริการอีกด้วย จึงขอแนะนำให้เลือกเป็นจุดตั้งต้นของทริปท่องเที่ยวเลยค่ะ
ที่อยู่ : 1-1-1 Ninomaru, Chūō-ku, Kumamoto-shi, Kumamoto-ken
เว็บไซต์หลัก : http://www.sakuranobaba-johsaien.jp/english/ (เว็บไซต์ภาษาอังกฤษ)
“ซุยเซ็นจิ โจจูเอ็น (Suizen-ji Jōju-en)” แห่งนี้เป็น สวนสไตล์ญี่ปุ่น ที่สร้างขึ้นเมื่อราว 400 ปีก่อน โดยตั้งอยู่ห่างจากปราสาทคุมาโมโตะประมาณนั่งรถรางเมือง 10 นาที
ภายในสวนเต็มไปด้วยสิ่งปลูกสร้างที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก “53 จุดพักแรมบนเส้นทางโทไคโด (Tokaido Gojusan Tsugi – 53 Stations of the Tokaido)” ซึ่งเป็นทางและที่พักระหว่างทางที่เชื่อมจากเอโดะ (โตเกียว) สู่เกียวโตในสมัยเอโดะ (ปี 1603 – 1868) แถมยังมีภูเขาขนาดเล็กที่ดูเหมือนกับภูเขาไฟฟูจิอีกต่างหาก
ทางตอนเหนือของสวนแห่งนี้เป็นที่ตั้งของ ศาลเจ้าอิซุมิ (Izumi Shrine) ซึ่งบูชาผู้ครองแคว้นแต่ละรุ่นในตระกูลโฮโซกาวะซึ่งเป็นผู้ปกครองคุมาโมโตะในสมัยเอโดะ
ที่อยู่ : 8-1 Suizenji Kōen, Chūō-ku, Kumamoto-shi, Kumamoto-ken
เว็บไซต์หลัก : http://www.suizenji.or.jp/ (เว็บไซต์ภาษาญี่ปุ่น)
คุมาโมโตะซึ่งรายล้อมไปด้วยธรรมชาติอันสุดยอดแห่งนี้เต็มไปด้วยอาหารท้องถิ่นแสนอร่อยเพียบ! ต่อไป เราจะมาแนะนำอาหารท้องถิ่นคัดสรรพิเศษ 3 เมนูกันค่ะ
ถึงแม้ว่าในฮากาตะและคาโกชิม่าจะมีทงคตสึราเม็งเหมือนกัน แต่บอกเลยว่านอกจากกระดูกหมู (ทงคตสึ) แล้ว ทงคตสึราเม็งของคุมาโมโตะยังมีเอกลักษณ์อยู่ที่การใส่ กระดูกไก่ ลงไปในการต้มน้ำซุปอีกด้วย
แถมยังมีการโรย กระเทียมเจียว เป็นท็อปปิ้งหน้าราเม็งหลังทำเสร็จแล้วอีกต่างหาก ทำให้ทงคตสึราเม็งของคุมาโมโตะได้ รสชาติของกระเทียมและยังมีน้ำซุปรสชาติเบา ๆ นุ่มนวล กว่าของฮากาตะและคาโกชิม่า
เราสามารถลิ้มลองราเม็งมากมายหลากหลายรสชาติได้ทั่วทั้งจังหวัดคุมาโมโตะเลย รวมถึงเมืองคุมาโมโตะด้วย
บริเวณโดยรอบภูเขาอาโซะ เราสามารถเห็นภาพของเหล่าวัวอาคาอุชิที่ถูกเลี้ยงแบบปล่อยให้กินหญ้าอย่างอิสระทั่วทุกแห่ง เนื้อวัวอาคาอุชิที่ถูกเลี้ยงให้กินหญ้าธรรมชาติปลอดยากำจัดศัตรูพืชและดื่มน้ำผุดอันสะอาดบริสุทธิ์นั้นจะมีเนื้อแดงนุ่มติดไขมันชั้นเยี่ยม แถมยังมี ชุ่มฉ่ำ อร่อยสุด ๆ
เราสามารถหาทานได้ตามร้านสเต็กและร้านอาหารทั่วทั้งจังหวัดคุมาโมโตะเลย นอกจากนี้ ใกล้กับภูเขาอาโซะยังเป็นที่ตั้งของ อาคาอุชิโร้ด แหล่งรวมร้านอาหารที่เสิร์ฟเมนูเนื้อวัวอาคาอุชิอย่างหลากหลายมากมายมากกว่า 10 ร้านด้วยนะ
“วัวเจอร์ซี” เป็นวัวสายพันธุ์ที่ผลิตน้ำนมเข้มข้นซึ่งอุดมไปด้วยไขมันนม แคลเซียม และวิตามินมากมาย เมืองโอกุนิ ตำบลอาโซะ ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของจังหวัดคุมาโมโตะแห่งนี้เป็นแหล่งเลี้ยงวัวเจอร์ซีที่เรียกได้ว่าหายากมากในญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้
บอกเลยว่ารสชาติสุดเข้มข้นของซอฟท์ครีมซึ่งสามารถหาทานได้ที่นี่นั้นสุดยอดอย่าบอกใครเลยล่ะค่ะ
นอกจากนี้ ในคุมาโมโตะก็ยังเป็นที่ตั้งของแหล่งท่องเที่ยวอันทรงเสน่ห์อีกเพียบ เช่น อามากุสะ (Amakusa) ที่เราสามารเพลิดเพลินกับทัศนียภาพอันงดงามของท้องทะเลจากการถักทอร้อยรวมของหมู่เกาะมากกว่า 120 แห่ง
รวมถึงเมนูสุดมีเอกลักษณ์อีกมากมายไม่ว่าจะเป็นการนำเนื้อม้าดิบมาหั่นบางๆ ทานเป็น บะซาชิ (ซาชิมิเนื้อม้าดิบ) และไทปีเอ็น เมนูเส้นที่อุดมไปด้วยพืชผักหลากหลายชนิดซึ่งดัดแปลงมาจากอาหารจีน
ยังไงเพื่อน ๆ ก็ลองแวะมาเที่ยว “คุมาโมโตะ” แหล่งรวมสถานที่ท่องเที่ยวมากมายและอาหารการกินแสนอร่อยแห่งนี้กันดูสักครั้งนะคะ