เคล็ดลับความหวานอร่อยของผลไม้ญี่ปุ่น! สัมผัสเสน่ห์แห่ง “ฟรุตซีเล็คเตอร์”
หนึ่งในความกังวลตอนเลือกซื้อผลไม้เลยก็คือ “ถ้าเกิดไม่ได้ลองชิมจริง ๆ ก็ไม่รู้ว่าผลไม้ผลนั้น ๆ อร่อยมั้ย?” แต่ก็มีเครื่องจักรบางอย่างที่สามารถแก้ปัญหากลุ้มใจดังกล่าวได้ เพราะว่าสามารถมองเห็นความอร่อยภายในผลไม้แต่ละผลได้ นั่นก็คือ “ฟรุตซีเล็คเตอร์” ของบริษัทคูโบต้านั่นเอง
เครื่องจักรอันล้ำสมัยที่ว่านี้ทำให้รู้ได้เลยว่าผลไม้แต่ละผลมีปริมาณน้ำตาลหรือความเปรี้ยวเท่าไหร่แค่เพียงแค่วางผลไม้ลงไปเท่านั้นเอง โดยมีการใช้กันตามสถานที่ต่าง ๆ มากมายไม่ว่าจะเป็น JA (สหกรณ์การเกษตรญี่ปุ่น), ตลาด และเกษตรทั่วประเทศญี่ปุ่นซึ่งบอกเลยว่ามีประโยชน์ต่อการคัดเลือกผลไม้รสชาติหวานอร่อยสุด ๆ “ฟรุตซีเล็คเตอร์” กลายเป็นเครื่องจักรที่ขาดไม่ได้เมื่อเอ่ยถึงเรื่องผลไม้ไปแล้วก็ว่าได้ เดี๋ยวเรามาดูเคล็ดลับของเครื่องจักรสุดวิเศษนี้กันเลยดีกว่าค่ะ
“ฟรุตซีเล็คเตอร์” คืออะไร?
“ฟรุตซีเล็คเตอร์” ซึ่งพัฒนาโดยบริษัทคูโบต้าเป็นเครื่องจักรสำหรับวัดปริมาณน้ำตาลโดยใช้เทคนิคการฉายแสงอย่างละเอียดและวัดปริมาณการดูดซับแสงของผลไม้
ในปัจจุบันมีเครื่องจักรแบบนี้จำหน่ายอยู่ 3 ประเภทด้วยกันโดยจำแนกใช้ตามน้ำหนักและขนาดของผลไม้ คือ เครื่องจักรสไตล์ตั้งโต๊ะ, เครื่องจักรติดสายสะพายสไตล์พกพา และเครื่องคัดแยกผลไม้ที่สามารถวัดผลไม้ผลไม้ปริมาณมากได้ในครั้งเดียว
“คุณซูซูกิ โยชิฮารุ” หนึ่งในผู้พัฒนาเล่าให้ฟังถึงข้อดีของ “ฟรุตซีเล็คเตอร์”เอาไว้ดังต่อไปนี้…
“ข้อแรกคือการที่สามารถใช้วัดปริมาณน้ำตาลได้โดยไม่ทำให้ผลไม้เสียหาย”
การวัดปริมาณน้ำตาลที่ผ่านมาส่วนใหญ่แล้วมักทำโดยการเจาะช่องบนผลไม้และคั้นน้ำผลไม้ออกมาเพื่อวัดปริมาณน้ำตาล แต่ก็มีข้อเสียอยู่ตรงที่ผู้ผลิตไม่สามารถวัดปริมาณน้ำตาลกับผลไม้ได้ทุกผล โดยทำได้เพียงแค่เลือกผลไม้ตัวอย่างมาวัดเท่านั้น ส่วนผลไม้ที่ผ่านการวัดประมาณน้ำตาลแล้วก็ไม่สามารถนำออกจำหน่ายต่อได้
“ฟรุตซีเล็คเตอร์สามารถใช้วัดปริมาณน้ำตาลของผลไม้ทุกผลได้”
ใช่แล้วค่ะ…เครื่องจักรฟรุตซีเล็คเตอร์สามารถวัดปริมาณน้ำตาลของผลไม้ได้โดยไม่ก่อให้เกิดความเสียหายกับตัวผลไม้ ทำให้สามารถนำออกจำหน่ายต่อได้นั่นเอง ส่งผลให้เราสามารถวัดปริมาณน้ำตาลของผลไม้ทุกผลได้อย่างสบาย ๆ นอกจากนี้ ผู้ผลิตยังสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลผลิตได้อีกด้วย เช่น การจำหน่ายผลไม้ที่มีปริมาณน้ำตาลสูงในราคาที่แพงขึ้นตามไปด้วย เป็นต้น จึงเรียกได้ว่าเครื่องจักร “ฟรุตซีเล็คเตอร์” นั้นมีประโยชน์มากทีเดียวเลยล่ะค่ะ
เทคนิคในการพัฒนาเพื่อให้คนที่ต้องการสามารถซื้อผลิตภัณฑ์ได้อย่างง่ายดาย
เครื่องจักร “ฟรุตซีเล็คเตอร์” นั้นเต็มไปด้วยเสน่ห์ล้นเหลือก็จริง แต่การพัฒนาและจำหน่ายนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
“การวิเคราะห์ปริมาณน้ำตาลและความเป็นกรดจากผลไม้ตัวอย่างมากมายที่รวบรวมมาจากทั่วประเทศญี่ปุ่นนั้นเป็นอะไรที่ลำบากมาก เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการวัดจึงจำเป็นต้องสำรวจข้อมูลต่าง ๆ มากมายไม่ว่าจะเป็นสายพันธุ์และถิ่นปลูกผลไม้
นอกจากนี้ สินค้าหลักของฝ่ายเกษตรกรรมของคูโบต้า คือ เครื่องจักรเกี่ยวกับข้าว โดยไม่มีช่องทางในการจำหน่ายเครื่องจักรสำหรับผลไม้มาก่อน ดังนั้น ทางบริษัทจึงเสี่ยงทำธุรกิจอย่างจริงจังเพื่อให้ JA และเกษตรกรทั่วประเทศญี่ปุ่นสนใจ หลังจากนั้นก็เริ่มมีสถานที่ที่จัดซื้อเครื่องจักรฟรุตซีเล็คเตอร์ไปใช้งานจริงกันมากขึ้นเรื่อย ๆ“
“ฟรุตซีเล็คเตอร์” ซึ่งมีช่องทางการจำหน่ายกว้างขวางขึ้นเริ่มมีการนำไปใช้จริงตามร้านจำหน่ายผลไม้, JA และเกษตรกรทั่วประเทศญี่ปุ่น เดี๋ยวเราไปฟังเสียงของเหล่าผู้ใช้งานจริงกันเลยดีกว่าค่ะ
ผู้ใช้งานจริงถึงกับพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเป็น “เครื่องจักรที่ขาดไม่ได้”
ความจริงแล้วคูโบต้าก็มีสวนซึ่งบริหารดูแลโดยใช้เครื่องจักรเพื่อการเกษตรของบริษัทคูโบต้าอยู่ด้วยนะเออ… นั่นก็คือ “คูโบต้าฟอร์ม” นั่นเอง โดยสร้างขึ้นมาด้วยจุดประสงค์เพื่อให้สามารถค้นพบปัญหาทางการเกษตรในมุมมองของเกษตรกรได้ด้วยตนเอง
“คุณยามาชิตะ ทาโร่” ผู้บริการคูโบต้าฟอร์มในจ.คุมาโมโตะของบริษัทคูโบต้านากาคิวชูเล่าให้ฟังว่า “พอเราได้ลองไปเป็นผู้ผลิตดูบ้างก็ได้รู้เรื่องอะไรใหม่ ๆ หลายอย่างเลย ผมอยากพยายามแก้ไขปัญหาทางการเกษตรและพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นผ่านการสัมผัสปัญหาของเหล่าเกษตรกรโดยตรง”
สวนของคูโบต้าฟอร์มเพาะปลูกมะเขือเทศโดยใช้เทคนิคของคูโบต้า เช่น ระบบที่สามารถควบคุมอุณหภูมิของเรือนกระจกได้โดยอัตโนมัติและการใช้ “เซ็งกะโคโบ” ฟรุตซีเล็คเตอร์สไตล์เครื่องคัดแยกผลไม้
มะเขือเทศนั้นเพียงแค่มีปริมาณน้ำตาลต่างกัน 1 % ราคาตลาดก็แตกต่างกันมากแล้ว เทคนิคของบริษัทคูโบต้าที่สามารถแปลงให้ปริมาณน้ำตาลกลายเป็นค่าตัวเลขได้นั้นมีประโยชน์ต่อการจัดการดูแลเรื่องคุณภาพของผลผลิตและการสร้างมูลค่าเพิ่มเป็นอย่างยิ่ง
นอกจากนี้ก็ยังมีผู้ใช้งานจริงบางคนที่ถึงกับชื่นชมยกย่องเครื่องจักร “ฟรุตซีเล็คเตอร์” อย่างมากเลยทีเดียว “คุณฮิโนะคุนิ ยุเกียว” เจ้าของร้านผลไม้ในโตเกียวอย่าง “ห้างหุ้นส่วนฮิโนะคุนิยะ” ได้รับประกันเอาไว้เลยว่า “เพียงแค่มีเครื่องจักรฟรุตซีเล็คเตอร์เครื่องนี้ เราก็จะสามารถรับรองคุณภาพของผลผลิตและแนะนำผลไม้ให้กับลูกค้าได้อย่างมั่นใจ” “คุณฮิโนะคุนิ ยุเกียว” ซึ่งเชื่อมั่นว่าเครื่องจักรฟรุตซีเล็คเตอร์เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับการจัดการดูแลเรื่องคุณภาพจึงขอแนะนำเหล่าผู้ผลิตทั้งหลายให้ใช้เครื่องจักรฟรุตซีเล็คเตอร์ด้วยเช่นเดียวกัน
เครื่องจักร “ฟรุตซีเล็คเตอร์” ไม่ได้ควบคุมยากอะไร ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้สูงอายุก็สามารถใช้งานได้อย่างง่ายดาย
“บริษัท คันดะมันฮิโกะ จำกัด” ร้านตัวแทนสั่งซื้อผลไม้ให้กับร้านจำหน่ายผลไม้ชั้นเลิศในตลาดโอตะของโตเกียวซึ่งเปิดกิจการมาตั้งแต่ปี 1836 นั้นจะทำการวัดปริมาณน้ำตาลของลูกพีชที่สั่งซื้อมาแบบผลต่อผลกันเลยทีเดียว โดยประธานบริษัทอย่าง “คุณอาโอกิ มิโนรุ” ได้ให้เหตุผลเอาไว้ว่า…
“เนื่องจากลูกพีชเมล็ดซ้ายและขวามีปริมาณน้ำตาลแตกต่างกันมากกว่า 2 % จึงจำเป็นต้องวัดกันแบบผลต่อผลเพื่อคัดแยกคุณภาพและยกระดับความพอใจของลูกค้า โดยสิ่งนี้ช่วยให้ทางบริษัทได้รับความไว้วางใจเพิ่มมากขึ้น”
ข้อดีของการใช้เครื่องจักรฟรุตซีเล็คเตอร์ไม่ใช่เพียงแค่การวัดปริมาณน้ำตาลเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อราคาผลผลิตและความน่าเชื่อถืออีกด้วย
ผลไม้ญี่ปุ่นมีรสชาติหวานอร่อย คุณภาพอันยอดเยี่ยมของผลไม้เหล่านั้นก็ได้อานิสงส์มาจากสิ่งประดิษฐ์และผู้คนมากมายนี่แหละไม่ว่าจะเป็น “ฟรุตซีเล็คเตอร์” เครื่องจักรสำหรับตรวจสอบรสชาติ รวมถึงผู้ผลิต ร้านจำหน่ายผลไม้ และตัวแทนที่สามารถแยกรสชาติของผลไม้ได้ด้วย
<ฟรุตซีเล็คเตอร์>
http://www.rice-fruit.kubota.ne.jp/fruit/ (ภาษาญี่ปุ่น)