ลิ้มลองผลไม้รสชาติหวานฉ่ำได้ในราคาไม่แพง! “ไดนามิคฟรุ๊ตส์” ผู้เปลี่ยนแปลงตลาดค้าผลไม้
ทำยังไงดี...อยากทานผลไม้เนื้อหวานอร่อยจังเลย! ถ้าเ...
เมื่อเอ่ยถึง “ตลาด” แล้ว นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติหลายคนจะต้องนึกถึงแหล่งจำหน่ายพืชผักผลไม้สดใหม่ ปลา และเนื้อสัตว์ที่ชาวบ้านชอบมาเดินช้อปปิ้งกันอย่างแน่นอน แต่ความจริงแล้วตลาดในญี่ปุ่นค่อนข้างแตกต่างออกไปเล็กน้อย เพราะว่าถ้าเอ่ยถึงตลาดในญี่ปุ่นแล้วมันคือแหล่งสั่งซื้อขายพืชผักส่งตรงจากแหล่งปลูกระหว่างผู้ผลิตและผู้ประกอบการ
พืชผักผลไม้ที่ผู้ประกอบการซึ่งเรียกว่า “นากาโอโรชิ” ซื้อมาจาก “การประมูล” นั้นจะถูกส่งผ่านมือของผู้ค้าปลีก เช่น ห้างสรรพสินค้าและซุปเปอร์มาร์เก็ต แล้วค่อยส่งต่อไปถึงมือผู้บริโภคอย่างเรา ๆ ที่กล่าวมาคือวิธีการหมุนเวียนสินค้าโดยทั่วไปของญี่ปุ่นนั่นเอง
ตลาดในญี่ปุ่นนั้นเรียกได้อีกอย่างว่าเป็นที่ทำงานของเหล่าผู้เชี่ยวชาญ บุคคลทั่วไปไม่สามารถเข้าร่วม “การประมูล” ได้ก็จริง แต่ตลาดบางแห่งก็เปิดให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติสามารถเข้าร่วมชมการประมูลได้ด้วย ไหนใครอยากลองสัมผัสประสบการณ์ใหม่ของการได้เดินตลาดราวกับเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งหนึ่งกันบ้างเอ่ย?
เมื่อเอ่ยถึงตลาดที่มีชื่อเสียงที่สุดในประเทศญี่ปุ่นแล้วก็จะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากแหล่งจำหน่ายปลาสดใหม่อย่าง “ตลาดซึกิจิ” แต่ใครจะรู้บ้างว่ายังมีตลาดอีกแห่งหนึ่งซึ่งเรียกได้ว่าเป็นตลาดซึกิจิแห่งวงการผลไม้ นั่นก็คือ “ตลาดขายส่งโอตะ”(Ota Shijo)นั่นเอง
ที่นี่ครอบคลุมพื้นที่อันแสนกว้างใหญ่กว่า 4 แสนตารางเมตร ตลาดขายส่งโอตะซึ่งเป็นแหล่งรวมผลไม้จากทั่วญี่ปุ่นแห่งนี้เป็นแหล่งค้าขายผลไม้กว่า 3,600 ตัน / วันเลยทีเดียว
“การประมูล” เป็นงานอีเว้นท์หลักของตลาดเลยก็ว่าได้ คนญี่ปุ่นเรียกการค้าขายสินค้าด้วยวิธีการประมูลว่า “เซริ” โดยงานนี้จะมีผู้เชี่ยวชาญด้านการตรวจสอบคุณภาพของผลไม้ซึ่งเรียกว่า “เมะคิคิ” ผู้ทำงานเป็นผู้ประกอบการนากาโอโรชิเข้าร่วมการประมูลด้วย
ก่อนเริ่มการประมูล ภายในลานจัดงานจะเรียงรายไปด้วยผลไม้มากมายที่ถูกนำมาจำหน่ายในแต่ละวัน เหล่าผู้เชี่ยวชาญด้านผลไม้จะเข้ามาเช็คสินค้าล่วงหน้าว่าจะลงประมูลให้สินค้าชิ้นไหนบ้าง พวกเขาจะทำการตรวจสอบรูปร่างหน้าตาและความหวานของผลไม้อย่างเข้มงวดเพื่อเลือกสินค้าที่ตรงตามมาตรฐานของบริษัทตนเองให้มากที่สุด
อาคารพืชผักผลไม้ของตลาดขายส่งโอตะจะเริ่มการประมูลประมาณ 7 โมงเช้าของทุกวัน เมื่อการประมูลเริ่มต้นขึ้น เสียงอันทรงพลังของผู้จัดจำหน่ายซึ่งเรียกว่า “เซรินิน” ก็ดังขึ้นจากทั่วสารทิศ แต่ “เมะคิคิ” จะเป็นผู้เสนอราคาผ่านสัญญาณมือซึ่งเรียกว่า “เทะยาริ” โดยไม่ส่งเสียงอะไรออกมา
การประมูลจะจัดขึ้นตามผลไม้แต่ละชนิด ในวันนี้เป็นการประมูลมะม่วงจากจ.มิยาซากิและคราวน์เมล่อนจากจ.ชิสึโอกะซึ่งเป็นผลไม้ชั้นเลิศที่มีชื่อเสียงมาก
คราวน์เมล่อนที่มีคุณภาพชั้นเลิศมากที่สุดที่ถูกนำไปวางขายตามห้างสรรพสินค้าบางครั้งก็มีราคาพุ่งสูงไปถึง 20,000 เยน / ลูกเลยทีเดียว ส่วนมะม่วงสุกมีราคาอยู่ที่ประมาณ 10,000 เยน / ลูก
การเยี่ยมชมตลาดทำให้เราได้สัมผัสกับผลไม้ชั้นเลิศเหล่านี้อย่างใกล้ชิด ส่วนการได้เยี่ยมชมการประมูลนับเป็นโอกาสเพียงครั้งเดียวในชีวิตที่ทำให้เราได้เห็นเบื้องหลังของการกระจายสินค้าผลไม้สู่ตลาดเลยก็ว่าได้
เนื่องจากผลไม้ที่จำหน่ายจะเปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาล เช่น สตรอว์เบอร์รีในฤดูใบไม้ผลิ, แตงโมในช่วงต้นฤดูร้อน, ลูกพลับในฤดูใบไม้ร่วง และส้มมิคังในฤดูหนาวนั้น เราจึงสามารถสัมผัสถึงความสดใหม่ได้เสมอทุกครั้งที่มาเยือน
หลังชมการประมูลจบแล้วก็ถึงเวลาเดินเยี่ยมชมภายในตลาดกันแล้วล่ะค่ะ ภายในตลาดเต็มไปด้วยกล่องลังเพียบเลยนะเนี่ย! ส่วนข้างในกล่องก็ไม่ต้องเดาเลยว่าเป็นอะไร…ก็ต้องผลไม้แน่นอนอยู่แล้ว~
และไฮไลท์ห้ามพลาดเมื่อได้มาเดินชมตลาดเลยก็คือตู้เย็นขนาดยักษ์สำหรับเก็บรักษาผลไม้ที่ถูกขนส่งมานั่นเอง
ตู้เย็นยักษ์ที่ว่านี้มีทั้งหมด 6 ห้องด้วยกัน โดยสามารถบรรจุผลไม้ได้รวมถึง 3,000 ตันเลยทีเดียว ภายในตู้เย็นเต็มไปด้วยกล่องลังบรรจุสตรอว์เบอร์รี, ส้มมิคัง และผลไม้ชนิดอื่น ๆ เต็มไปหมดอย่างกับภูเขาแน่ะ! ผลไม้เหล่านี้กำลังรอวันส่งเข้าการประมูลอยู่…
ตู้เย็นเหล่านี้แตกต่างจากตู้เย็นทั่วไปตรงที่ไม่มีประตูนี่แหละ ถ้าถามว่าทำไมก็เพราะว่าเพื่อให้รถฟอร์คลิฟท์บรรทุกสินค้าสามารถเข้า-ออกได้อย่างอิสระ ส่วนบริเวณโดยรอบก็มีการปล่อยคลื่นความเย็นออกมาจนรู้สึกเย็นเจี๊ยบเลยทีเดียว
กว่าจะเดินเยี่ยมชมจนครบทั่วทั้งตลาดก็ปาเข้าไป 1 – 2 ชั่วโมงแล้ว สำหรับใครที่เริ่มเมื่อยล้าขึ้นมาบ้างแล้วก็ขอแนะนำให้แวะพักผ่อนตามร้านอาหารหรือคาเฟ่ภายในตลาดเลยค่ะ บุคคลทั่วไปก็สามารถเข้ามาทานอาหารได้น้า…
นอกจากภายในตลาดขายส่งโอตะจะมี “เซกะโต” หรืออาคารจำหน่ายพืชผักผลไม้แล้วก็ยังมีอาคารอีก 3 หลังประกอบด้วย “คาคิโต” อาคารจำหน่ายดอกไม้และ “ซุยซันโต” อาคารจำหน่ายอาหารทะเล ถ้าเกิดใครมีเวลาเหลือเฟือก็สามารถลองแวะไปชมคาคิโตหรือซุยซันโตได้น้า…
ถัดจากอาคารจำหน่ายพืชผักผลไม้ “เซกะโต” ข้ามถนนไป 1 สายเป็นที่ตั้งของ “คาคิโต” หรืออาคารจำหน่ายดอกไม้ที่ว่านั่นเอง โดยเต็มไปด้วยดอกไม้ตัดกิ่งและพืชกระถางเพียบ!
ก่อนงานอีเว้นท์ต่าง ๆ เช่น คริสต์มาส, วันปีใหม่ หรือวันแม่ จะเต็มไปด้วยดอกไม้มากมายเป็นพิเศษ สำหรับใครที่ชื่นชอบดอกไม้ก็บอกเลยว่าห้ามพลาดแวะมาชมดอกไม้นานาพันธุ์ที่นี่กันให้ได้ค่ะ
ตลาดขายส่งโอตะแห่งนี้เต็มไปด้วยผู้คนและรถฟอร์คลิฟท์(หรือเรียกว่าTurret Truck)สัญจรผ่านไป-มาอย่างขวักไขว่ เนื่องจากภายในตลาดให้ความสำคัญกับรถบรรทุกสินค้ามากกว่าคนเดินทั่วไป ดังนั้นจึงควรหลบให้รถฟอร์คลิฟท์วิ่งผ่านไปก่อนก่อนเสมอ
การประมูลจะเริ่มตั้งแต่เวลา 7 โมงเช้าจนถึงประมาณ 8 โมงเช้าซึ่งถือว่าเป็นช่วงเวลาที่สั้นมาก สำหรับใครที่อยากเยี่ยมชมการประมูลจึงควรรีบมาตั้งแต่เช้าจะดีที่สุด
นอกจากนี้ ห้องน้ำภายในตลาดจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ ห้องน้ำสำหรับผู้เกี่ยวข้องของทางตลาดเท่านั้นและห้องน้ำที่บุคคลทั่วไปก็สามารถใช้ได้เหมือนกัน เนื่องจากห้องน้ำสำหรับผู้เกี่ยวข้องจะล็อคเอาไว้ไม่ให้ใช้ จึงควรระวังกันให้ดีด้วยนะจ๊ะ…
ตลาดขายส่งโอตะมีพื้นที่กว้างใหญ่มาก สำหรับใครที่เพิ่งเคยเดินทางมาเยือนเป็นครั้งแรกอาจตกใจในความกว้างใหญ่ของสถานที่และปริมาณผลไม้อันมหาศาลกันแน่ ๆ ตลาดขายส่งโอตะแห่งนี้เต็มไปด้วยสิ่งแปลกใหม่ให้ค้นหามากมายไม่ว่าจะเป็นระบบ “การประมูล” สไตล์ญี่ปุ่นและตู้เย็นขนาดยักษ์ จึงบอกเลยว่าต้องแวะมาเยือนกันให้ได้สักครั้งในชีวิตค่ะ
<Ōta Wholesale Market (ตลาดขายส่งโอตะ)>
ที่อยู่:Tōkyō-to, Ōta-ku, Tōkai, 3-2-1
เวลาทำการ:24 ชั่วโมง การประมูลเริ่มต้นเวลา 7:00 น.〜
วันหยุด:ทุกวันอาทิตย์และบางวันพุธ
บริการ Wi-Fi:ไม่มี
ประเภทและบริการรองรับบัตรเครดิต :ไม่รองรับ
ภาษาที่รองรับ :เฉพาะภาษาญี่ปุ่นเท่านั้น
บริการเมนูภาษาอื่น ๆ :ไม่มี
สถานีที่ใกล้ที่สุด:JR Shinagawa Station, JR Omori Station และ Keihin Kyuko Heiwajima Station
วิธีการเดินทาง:นั่งรถบัสเมืองจาก JR Shinagawa Station หรือนั่งรถบัสเคคิวจาก JR Omori Station・Keihin Kyuko Heiwajima ซึ่งมุ่งหน้าไปยัง “Ōta shijo” มาลงป้าย “Ōta shijo”
เบอร์โทรศัพท์:03-3790-8301
※ ในกรณีที่ต้องการเยี่ยมชมตลาดเป็นหมู่คณะจำเป็นต้องสอบถามทางตลาดขายส่งโอตะล่วงหน้าทางโทรศัพท์ (รองรับเฉพาะภาษาญี่ปุ่นเท่านั้น)